บทความ

รีวิว HTC Rhyme มือถือที่ผู้หญิง(แฟนผม) เห็นแล้ว "รักเรยย"

รูปภาพ
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลย ว่าผมเป็นผู้ชาย ที่ขี้เกียจอ่านรีวิวทั่วไปมากรู้สึกว่าบอกแต่สเป็คเครื่อง ผมก็แค่คนใช้งานโง่ๆ ผมอยากรู้เพียงว่าถ้าจะซื้อมือถือให้แฟนผมซักเครื่องนี่ ว่าคุณคนรีวิว คุณสัมผัสเครื่องแล้วคุณถูกใจมันยังไงวะ เอาความคิดคุณเลย พอผมเขียนเองบ้างเลยอยากเขียนแบบนี้ ส่วนสเป็คหาได้จากเว็บผู้ผลิตอยู่แล้ว +กับได้รับโจทย์จากคุณแฟนว่า เค้าอยากได้ มือถือใหม่แล้วนะ แต่ไม่เอา บีบี เค้าไม่เอา ไอโฟน ไม่เอา S2 เพราะลองเล่นแล้วไม่ชอบ มันใช้ยาก ผมเลยถามไปยากอย่างไรล่ะ ยากที่รูปร่างไม่สวยใช้แล้วไม่เข้ามือปุ่มเล็ก ยากที่ต้องลงโปรแกรมเพิ่มกับเครื่องคอมมันน่ารำคาญ ยากที่ใช้ๆไปแล้วมันไม่ลื่นแบบสเถียรมีกระตุก ว่างั้น ยากที่ราคามันแพง ของแถมน้อย บราๆๆๆ อื่นๆอีกมากมาย ฟังเป็นวัน (ผุ้หญิงนี่เข้าใจยากจริงๆ) ผมก็เลยสรุปได้ว่า มือถือที่แฟนผมอยากได้นี่มันเป็นอย่างนี้นี่เอง  1.ความน่าใช้งานของ แมททีเรียล ที่ประกอบเครื่อง ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้ขอดีมากแต่ขอให้รู้สึกที่ที่เข้ากันได้ ขนาด - ที่จับพอดีมือไม่อ้วนจนจับแล้วเก้งก้าง ไม่เล็กจนจับแล้วจะหลุดมือ น้ำหนัก - ไม่เบาจนดูเหมือนของเด็กเล่น

002Fin การส่งของทางไปรษณีย์

การส่งของทางไปรษณีย์มีหลายรูปแบบค่ะ ขอแบ่งเป็น3แบบนะคะ 1.ส่งแบบธรรมดา ส่งแบบนี้ค่าใช้จ่ายถูกค่ะ ไม่มีการเซนต์รับของ มีโอกาสที่สินค้าสูญหายได้ ใช้เวลานานในการส่งถึงที่หมาย 2.ส่งแบบลงทะเบียน ส่งแบบนี้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาจากแบบธรรมดาหน่อยค่ะ  มีการเซนต์รับของ ป้องกันความเสี่ยงในกรณีสินค้าสูญหายได้ ใช้เวลาไม่นานมากในการจัดส่งไม่เกิน7วัน ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่มักจัดส่งสินค้าแบบนี้ค่ะ 3.ส่งแบบลงทะเบียนด่วนพิเศษ(EMS) ส่งแบบนี้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าสองแบบข้างต้นค่ะ มีการเซนต์รับของป้องกันความเสียวงกรณีสินค้าสูญหายได้ ใช้เวลารวดเร็วในการส่งสินค้าไม่เกิน3วัน ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่มักจัดส่งสินค้าแบบนี้เช่นกันค่ะ >> รู้ไว้ได้ประโยชน์กับการส่งสินค้าแบบลงทะเบียน และ แบบลงทะเบียนด่วนพิเศษ(EMS) - ของที่ส่งแบบลงทะเบียน และ แบบ EMS ไม่ว่าจะส่งของใหญ่ ของเล็ก ส่งเป็นซอง ส่งเป็นกล่อง "ต้องมีการเซ็นต์รับเท่านั้นค่ะ"  ถ้าไม่มีการเซ็นต์รับ หรือ ไม่มีคนอยู่บ้าน ของก็จะถูกตีกลับไปยังไปรษณีย์ปลายทาง และบุรุษไปรษณีย์ทิ้งบัตรรับของไว้ที่ตู้จดหมาย  เพื่อเป็นหลักฐานในการมารับของที่ไปรษณีย์ที่บ

กระแสการลงทุนในทองคำ

ที่มา การเงินการธนาคาร ก.ค. 2552 ปัจจุบันการลงทุนในทองคำเป็นที่แพร่หลายทั้งลงทุนโดยตรง ผ่านกองทุนรวม หรือโกล์ดฟิวเจอร์ซึ่งการลงทุนแต่ละประเภทมีลักษณะการลงทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทนที่แตกต่างกัน จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า สนใจกำลังที่จะลงทุนในทองคำ แต่ไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างการลงทุนในทองคำโดยตรง กับการลงทุนผ่านกองทุนรวมว่าควรเลือกลงทุนอย่างไร     เนื่องจากการลงทุนในทองคำเป็นที่นิยมมากในช่วง สองถึงสามปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการลงทุนในทองคำได้มีการพัฒนามากขึ้นดดยในยุคปัจจุบัน มีการลงทุน สี่ช่องทาง ดังนี้ 1.ทองคำแท่ง ผ่านร้านทองเยาวราช และร้านทองทั่วไป     จะเป้นการซื้อขายที่คนไทยรู้จักกันดี ซึ่งเป็นการซื้อขายแบบยื่นหมูยื่นแมว นำเงินสดไปแลกทองคำกลับมา โดยมีการส่งมอบทองคำจริง ได้รับทันทีหลังจากตกลงซื้อขาย เป็นการลงทุนแบบ ออมระยะยาว ซึ่งวิธีนี้ผู้ซื้อจะต้องหาที่เก็บที่ปลอดภัย เช่น ตู้เซพ 2.ซื้อขายผ่านกองทุนรวม หรือตามบล.ต่างๆ     ซื้อกองทุน หรือ SPDR Gold Trust กับสหรัฐอเมริกา     ข้อดี คือ หน่วยลงทุนน้อย ไม่กี่หมื่นบาทก็มาสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้แล้ว โดยการซื้อหน่วยลงทุนซื้อแล้ว เปรียบเสมือนท่านเป็

10 ข้อลับ ที่ห้าง ไม่อยากให้ลูกค้ารู้

แปลและเรียบเรียงจาก Sally Wadyka for MSN Health & Fitness โดย ดร.พรธิภา องค์คุณารักษ์ สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 10 ข้อลับ ที่ห้าง (Big-C, คาร์ฟูร์, โลตัส, Top, etc) ไม่อยากให้ลูกค้ารู้ จากบทความเรื่อง 10 Things Your Grocery Store Doesn't Want You to Know จากเว็บไซต์ http://www.msn.com ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับประชาชนจำนวนมาก และเป็นสิ่งที่เราอาจไม่เคยทราบว่าร้านค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ตมีกลยุทธ์ ในการขายสินค้าอย่างไรบ้าง และมีความลับใดที่เราไม่เคยรู้ บางอย่างอาจเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไป เช่น ความสะอาดหรือการส่งเสริมการขาย ทำให้ประชาชนทั่วไปมักซื้อของมากเกินความจำเป็น กลยุทธ์ & ความลับซูเปอร์มาร์เก็ต หลายคนอาจไม่เคยคิดว่า การเดินซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกหรือซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นสิ่งอันตรายและไม่ เคยคำนึงถึงเบื้องหลังหรือฉากหลังของการดำเนินธุรกิจของร้านค้าเหล่านั้น พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคได้กลายเป็นศาสตร์ที่มีการศึกษาอย่างไม่ รู้จบ โดยนักวิจัยตลาดได้ใช้เวลาศึกษานานหลายปี เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นสินค้าที่มีในร

เกร็ดตรุษจีน # 10 จุดประทัดรับปีใหม่

รูปภาพ
ที่มา คุณ peijing Bloggang.com หลังจากรับประทานอาหารมื้อแรกของวันตรุษแล้ว ชาวจีนนิยมไปศาลบรรพบุรุษเพื่อทำพิธีเซ่นไหว้บูชาบรรพบุรุษ นอกจากนี้ยังมีวิถีปฏิบัติเพื่อขอพร และขอความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่แบบอื่นอีก เช่น จุดโคมไฟ จุดประทัด ถวายเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้า ไปวัด ออกจากบ้านไปทัศนาจร รวมถึงการไปเก็บต้นงา เพราะเชื่อว่า ชีวิตจะเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปเหมือนต้นงาที่งอกขึ้นเป็นข้อๆ ชั้นๆ ประทัด พลุไฟนานาชนิด รอให้เลือกซื้อมากมาย นอกจากคืนวันส่งท้ายปีเก่า และวันที่ 5 เดือน 1 ที่จะมีการจุดประทัดกันแล้ว ประเพณีการจุดประทัดในเช้าวันแรกของปีใหม่ก่อนออกจากบ้าน ก็เป็นความเชื่อของชาวจีนว่า จะเป็นการเริ่มต้นปีด้วยความคึกคัก หรือที่เรียกว่า " ไคเหมินเพ่า " (开门炮) เพื่อต้อนรับวันแรกของปี ประทัดของจีนมีประวัติศาสตร์มายาวนาน เดิมทีใช้ปล้องไม้ไผ่ตั้งไฟเผาให้ระเบิดจนเกิดเสียงดัง ใช้ในการขับไล่ภูตผี ป้องกันเสนียดจัญไร ต่อมาใช้ในพิธีไสยศาสตร์ของพ่อมดหมอผีและการเสี่ยงทาย จนในที่สุดกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการอธิษฐาน ขอความสงบร่มเย็น ชาวจีนพากันเลือกซื้อประทัดไว้จุดต้อนรับวันใหม่ของปี ปร

เกร็ดตรุษจีน # 7 กินเกี๊ยวแล้วโชคดีตลอดปี

รูปภาพ
ที่มา คุณ peijing Bloggang.com " เจี่ยวจือ หรือ เกี๊ยวต้ม " อาหารยอดนิยมที่สุดของชาวจีน " เจี่ยวจือ (饺子)หรือ เกี๊ยวต้มจีน " เป็นอาหารท้องถิ่นจีนที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตลอดจนได้รับความนิยมมาอย่างไม่เสื่อมคลาย จนกระทั่งมีคำกล่าวว่า ‘ ไม่มีอะไรอร่อยเท่าเจี่ยวจืออีกแล้ว ’ และในวันแรกของเทศกาลตรุษจีนของชาวจีนทางเหนือ อาหารชนิดนี้ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ทั้งยังได้รับเกียรติให้เป็นอาหารมื้อแรกของวันด้วย ประเพณีการกินเจี่ยวจือในวันตรุษจีน เริ่มเป็นที่นิยมกันมาตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1368-1644) โดยคนในครอบครัวจะต้องห่อเจี่ยวจื่อให้เสร็จก่อนเที่ยงคืนของวันสิ้นปี รอจนยามที่เรียกว่า " จื่อสือ ( 子时) " ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 23 - 1 นาฬิกาของวันถัดมาก็จะเริ่มรับประทานกัน และเป็นเวลาเริ่มต้นวันใหม่ของปีใหม่พอดี การทานเจี่ยวจือจึงมีความหมายว่า ‘ เปลี่ยนปีเชื่อมเวลา (更岁交子) ' เพราะคำเรียกอาหารชนิดนี้ 饺- เจียว ก็ออกเสียงคล้าย 交-เจียว ซึ่งมีความหมายว่า เชื่อมต่อกัน และ 子-จื่อ ก็คือ 子时 – จื่อสือ นั่นเอง นอกจากนั้น การรับประทานอาหารชนิดนี้ ยังมีคว

เกร็ดตรุษจีน # 4 ตำนานคืนส่งท้ายปีเก่า

รูปภาพ
ที่มา คุณ peijing Bloggang.com ชาวจีนมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับ “ ฉูซีเยี่ย (除夕夜) ” หรือ " คืนส่งท้ายปีเก่า " ว่า ในยุคโบราณสมัยที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ มีสัตว์ประหลาดที่ดุร้ายมากตัวหนึ่ง ชื่อว่า “ เหนียน (年) ” ทุกปีในคืนวันส่งท้ายปี จะขึ้นจากทะเลมาอาละวาดทำร้ายผู้คนและทำลายเรือกสวนไร่นา ในวันนี้ของทุกปีชาวบ้านจึงมักจะหลบกันอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด ปิดประตูหน้าต่างแน่นหนา และไม่หลับไม่นอนเพื่อเฝ้าระวัง รอจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นจึงเปิดประตูออกมา และกล่าวคำยินดีแก่เพื่อนบ้านที่โชคดีไม่ถูก “ เหนียน ” ทำร้าย ในคืนส่งท้ายปีของปีหนึ่ง “เหนียน” ได้เข้าไปอาละวาดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งและกินชาวบ้านจนเรียบ ยกเว้นคู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงาน และเด็กคนหนึ่งที่กำลังเล่นประทัดอยู่กลางถนน เหตุที่ทำให้คู่บ่าวสาวปลอดภัย เนื่องจากทั้งคู่สวมชุดสีแดง ส่วนเด็กที่ปลอดภัยก็เพราะเสียงประทัดที่ดังสนั่น ทำให้ “เหนียน” ตกใจกลัวหนีไป ชาวบ้านจึงรู้ถึงจุดอ่อนของ “เหนียน” ดังนั้น เมื่อถึงคืนส่งท้ายปีเก่า ชาวบ้านจึงพากันสวมใส่เสื้อผ้าสีแดง นำสิ่งของที่มีสีแดงมาประดับตกแต่งบ้านเรือนและจุดประทัดให้มีเสียงดังๆ ท